ศน.จับมือองค์การศาสนา 5 ศาสนา สานต่อโครงการอบรมผู้นำเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์...
ศน. จับมือองค์การศาสนา 5 ศาสนา สานต่อโครงการอบรมผู้นำเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์
ภายใต้แนวคิด HERO ขยายพื้นที่การเรียนรู้และเข้าใจการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม รุ่นที่ 2...
วันที่ 23 เมษายน 2567 เวลา 09.30 น. นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมการจัดอบรมผู้นำเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี ผู้นำองค์การศาสนา ผู้แทนเยาวชน 5 ศาสนา และเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา เข้าร่วมอบรม ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา (อศน.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาเป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานด้านศาสนา เป็นแกนหลักที่สำคัญต่อการพัฒนาให้เด็ก เยาวชน และประชาชน มีความรู้ เป็นคนดี มีคุณธรรมและจริยธรรม ดังนั้น การปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกำลังของชาติได้เรียนรู้หลักธรรมคำสอน เข้าใจความแตกต่างในวิถีชีวิต ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม การดำรงชีวิต และการอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานสังคมที่แตกต่าง จึงเป็นภารกิจที่กรมการศาสนามุ่งเน้นและให้การส่งเสริมตลอดมา โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กรมการศาสนาได้ร่วมมือจากองค์การศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวม 15 องค์การ ได้แก่ องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ สำนักจุฬาราชมนตรี สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย สภาคริสตจักรในประเทศไทย สหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย มูลนิธิคริสตจักรคณะแบ๊บติสต์มูลนิธิคริสตจักรเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีสแห่งประเทศไทย สำนักพราหมณ์พระราชครู ในสำนักพระราชวัง สมาคมฮินดูสมาช สมาคมฮินดูธรรมสภา สมาคมศรีคุรุสิงห์สภา สมาคมนามธารีสังคัตแห่งประเทศไทย และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียง จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงคราม จัดอบรมผู้นำเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ รุ่นที่ 2 ในระหว่างวันที่ 23 - 26 เมษายน 2567 ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้แทนเยาวชน 5 ศาสนา อายุระหว่าง 15 - 18 ปี ที่ผ่านการอบรมเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์หลักสูตรขั้นพื้นฐานมาแล้ว เข้ารับการอบรมผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมการปลูกฝังคุณธรรมสำหรับผู้นำ และกิจกรรมการสร้างภาวะความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและการส่งเสริมสัมพันธภาพในการอยู่ร่วมกันระหว่างศาสนา ภายใต้แนวคิด HERO ของค่ายผู้นำเยาวชน 5 ศาสนา คือผู้นำที่มีจริยธรรมที่ดีตามหลักศาสนา เป็นแบบอย่างให้แก่ผู้อื่น สร้างความเข้าใจ และความเชื่อมั่น เพื่อทำให้พวกเขามีความอิสระและสามารถตัดสินใจและดำเนินชีวิตได้ด้วยตนเอง ประกอบด้วย HARMONY คือ ความสามัคคี, ETHICS คือ จริยธรรม, RELIGIONS คือ ทุกศาสนา และ
ONE VOICE CAN CHANGE THE WORLD คือ เสียงเล็ก ๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้
อย่างไรก็ตาม ไม่มีฮีโร่ใดที่เปลี่ยนแปลงโลกด้วยตัวคนเดียวได้ หากไม่มีความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกันให้งานเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งได้ทีมวิทยากรมืออาชีพในการเปิดพื้นที่ให้มีการพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพภาวะความเป็นผู้นำของเด็กและเยาวชน รวมทั้งส่งเสริมทักษะที่จำเป็นสำหรับการสร้างแกนนำเยาวชนในการขยายผลด้านศาสนิกสัมพันธ์ ไปยังสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ได้เรียนรู้วิถีชีวิตการปฏิบัติที่ต่างกัน เข้าใจ เข้าถึงศาสนาที่นับถือต่างกัน ทำให้เกิดความเข้าใจในความแตกต่าง สามารถนำหลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ มาเสริมสร้างคุณธรรมนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางทางจิตใจ
อธิบดีกรมการศาสนา (อศน.) กล่าวต่อว่า การจัดอบรมผู้นำเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ในครั้งนี้ เป็นการจัดอบรม รุ่นที่ 2 โดยใช้หลักสูตรผู้นำ ซึ่งเยาวชนที่เข้ารับการอบรมเป็นเยาวชนที่ผ่านการอบรมในหลักสูตรขั้นพื้นฐานมาแล้วเมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 หลักสูตรที่ใช้ในการอบรม ประกอบด้วย การเป็นผู้นำด้านศาสนิกสัมพันธ์ การเรียนรู้ความแตกต่างทางศาสนา การพัฒนาบุคลิกภาพ เทคนิคการทำสื่อ การพูดและการสื่อสารที่ดี โดยผ่านการถ่ายทอดจากทีมวิทยากรมืออาชีพของสมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กร ซึ่งเยาวชนที่จะเข้ารับการอบรมเหล่านี้จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านศาสนิกสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี
อธิบดีกรมการศาสนา (อศน.) กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการศาสนาและองค์การศาสนาเยาวชนที่ได้ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้นำจากค่ายนี้แล้ว สามารถมีความเข้าใจในความแตกต่างหลากหลายด้านเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต ก่อให้เกิดความสมานฉันท์ของเยาวชนในชาติ สามารถนำหลักธรรมทางศาสนามาพัฒนาตนให้เป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นผู้นำด้านศาสนิกสัมพันธ์และถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้รับไปสู่เยาวชนรุ่นต่อไปได้อย่างเหมาะสม และร่วมกันต่อยอดขับเคลื่อนงานด้านศาสนิกสัมพันธ์ต่อไป...
__________________________
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น