รัฐมนตรีท่องเที่ยว ประกาศพลิกโฉมท่องเที่ยวและกีฬาไทยในปี2567...

รัฐมนตรีท่องเที่ยว ประกาศพลิกโฉมท่องเที่ยวและกีฬาไทยในปี 2567
“สุดาวรรณ”ประกาศเป้าหมายการทำงานปี 2567 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท เพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทยให้ได้ 1% ของอุตสาหกรรมกีฬาโลก คิดเป็น มูลค่า 455,800 ล้านบาท วาง 7 นโยบายขับเคลื่อนท่องเที่ยวและกีฬา ใช้ซอฟต์พาว เวอร์เป็นขุมพลังใหม่...
  สำหรับนโยบายที่กระทรวงฯ จะขับเคลื่อนในปี 2567 มี 7 นโยบายหลักๆ นโยบายแรก คือ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2567 จากเชิงปริมาณเข้าสู่โหมดของคุณภาพ ทั้งมิติของในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยคึกคักตลอดทั้งปี ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย“
“ประเทศไทยต้องมี High season on year round tourism destination คือ เที่ยวได้ทั้งปี หรือเที่ยวได้ ทั้ง 365 วัน จึงได้เตรียม Event ต่างๆ ไว้มากมาย อาทิ เทศกาล ตรุษจีน เทศกาลสงกรานต์ ที่จะจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพราะยูเนสโก้เพิ่งประกาศขึ้น ทะเบียนให้สงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ จึงต้องยกระดับกิจกรรม Event ต่างๆ ในระดับชุมชนให้เป็น Event ในระดับนานาชาติ เป็นการกระตุ้นการไปท่องเที่ยวเมืองรอง จะทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาตลาดเดิม และเจาะตลาดนักท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้ต่อเนื่อง”
นโยบาย 2 กระทรวงฯจะใช้ Soft Power เป็นพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการกีฬาของประเทศไทยให้เป็น “Engine the New Power” และจุดเด่นของ Soft Power ก็จะมีในเรื่องของกีฬาเข้ามาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนด้วยและเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกที่สำคัญ และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน demand ของการท่องเที่ยวและการกีฬาได้เป็นอย่างดี
นโยบายที่ 3 ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการเรื่องความปลอดภัยทั้ง Hospitality และ Safety โดยต้องทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่า “เมืองไทยปลอดภัย” มาแล้วได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ต้องเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามการเอาเปรียบ หลอกลวงนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยของเรา
นโยบายที่ 4 นำเรื่อง Responsibility เราต้องทำให้การท่องเที่ยวนั้นยั่งยืน ซึ่งเรื่องนี้ เป็นนโยบายที่พูดกันมานานแล้ว แต่ในปี 2567 จะนำเรื่องนี้มาขับเคลื่อนให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นจริงๆ การท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้ต่อเมื่อ “ท้องถิ่น” ต้องมาร่วมขับเคลื่อนด้วยกัน
นโยบายที่ 5 จะใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการกระชับความสัมพันธ์ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสานต่อนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางเชื่อมโยงภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ปลายเดือนนี้ จะมีประเด็นพูดคุยที่สำคัญคือ ASEAN Connect ที่จะทำให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก
นโยบายที่ 6 มีนโยบายที่จะขับเคลื่อนด้านกีฬาพื้นฐาน โดยวางระบบการพัฒนาทั่วประเทศเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริม พัฒนาการการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ทุกคนสามารถออกกำลังกายเป็นวิถีชีวิต สามารถเข้าถึงกีฬาได้หมดทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งที่เป็นคนปกติ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งจะมีการส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาเพื่อการอาชีพที่จะต้องพัฒนากีฬาทุกระดับและบุคลากร รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาเพิ่มสมรรถนะให้กับนักกีฬาไทยให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อแข่งขันในระดับนานาชาติ หรือกีฬาอาชีพ และต้องผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ สุดท้ายคือ E-Sport ถือเป็นกิจกรรมกีฬาใหม่ที่ต้องส่งเสริมเพราะสามารถสร้างทักษะให้กับเยาวชนและ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก
นโยบายที่ 7การเตรียมพร้อมสำหรับมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ซึ่งปี 2567 จะมีรายการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการทั้งการส่งนักกีฬาไปร่วมแข่งขันกีฬา โอลิมปิกปารีส 2024 และการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ได้แก่/ เอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์/ จักรยานยนต์โมโตจีพี/ เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก/ ฮอนด้า แอลพีจี เอ ไทยแลนด์ 2024/ รวมถึงการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ซึ่ง มี 3 จังหวัดร่วมเป็นเจ้าภาพ คือ กรุงเทพ ชลบุรี และสงขลา
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับความสำเร็จของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งสิ้น 28 ล้านคน เศษ เกินกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ส่วนรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวปี 2566 ตั้งเป้าไว้ที่ 2.38 ล้านล้านบาท แต่สรุปตัวเลขเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา พบว่า ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 จากปี 2565...
    ส่วนผลงานด้านกีฬาในปี 2566 นักกีฬาของเรามีผลงานในชนิดกีฬาสากลที่ดีขึ้น และนอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการจัดกีฬาในระดับนานาชาติ ได้แก่ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ครั้งที่ 16 การแข่งขันรายการโมโตจีพี 2023 การจัดการแข่งขันรายการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2023 ซึ่งทุกรายการมีแฟนกีฬาทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้าชมเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น และผู้ประกอบการได้เป็นจำนวนมาก...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“แฟคทอรี่ ยาร์ด กรุ๊ป” สยายปีก เปิดสาขาใหม่ที่ลำลูกกา

..นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ร้องสื่อมวลชน หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาคุกคามถึงหน้าสมาคมฯ

กสทช.-กตป.ประชุมเพื่อสรุปผลการดำเนินงาน...