..เที่ยวใต้สายยั่งยืนSTGs(ครบ)14จังหวัดททท.ชูท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำโดยนำร่องเกาะตะรุเตาจังหวัดสตูลในพื้นที่ภาคใต้
เที่ยวใต้สายยั่งยืนSTGs(ครบ)14จังหวัด
ททท.ชูท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำโดยนำร่องเกาะตะรุเตาจังหวัดสตูลในพื้นที่ภาคใต้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคใต้ นำเสนอเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนSTGs(Sustainable Tourism Goals) ผุดแคมเปญสุดว้าว นำร่องกับ
“Pirate of The South @ Satun” ณ เกาะตะรุเตา อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นำทัพนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สื่อมวลชน และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ออกเดินทางเป็นนักล่าแห่งท้องทะเลอันดามัน ณ เกาะตะรุเตา (อุทยานแห่งชาติตะรุเตา) อดีตคุกกลางทะเล&ชุมทางโจรสลัด ในเส้นทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบแบบคาร์บอนต่ำ ชมความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของหมู่เกาะต่าง ๆ ในจังหวัดสตูล พร้อมสนุกสนานไปกับกิจกรรมแนวคิดใหม่ Low Carbon มากมาย เพื่อนำไปขยายผลสู่การขายการตลาดท่องเที่ยวส่งมอบประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยวในฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงเร็วๆนี้ต่อไป
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท. พร้อมด้วย นายทวีเดช ทองอ่อน ผอ.กองตลาดภาคใต้ ททท. นายไพรัช สุขงาม ผอ.ททท.สำนักงานสตูล และผู้แทนพันธมิตรหน่วยงานองค์กรต่างๆ ร่วมเปิดพิธีแถลงข่าวและเปิดงานโครงการ "Low Carbon Destination in The South" เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 จังหวัดสตูลที่ผ่านมา
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท.กล่าวว่า ททท. มุ่งส่งเสริมการตลาดและส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกมิติ พร้อมผลักดันให้ผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ ควบคู่กับการสร้างสมดุลระหว่างทรัพยากรทางการท่องเที่ยวและความต้องการทางการตลาดให้เกิดความยั่งยืนทั้งในภาคของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงดำเนินการจัดโครงการ "Low Carbon Destination in The South" โดย ททท.ร่วมมือกับจังหวัดสตูล อุทยานแห่งชาติตะรุเตา TEATA และตัวแทนผู้ประกอบการDMC(Destination Management Company)ในจังหวัดสตูล จัดกิจกรรมนำร่องขึ้นในพื้นที่เกาะตะรุเตา (อุทยานแห่งชาติตะรุเตา) และบริเวณเกาะใกล้เคียง จังหวัดสตูล เพื่อส่งเสริมการตลาดภูมิภาคภาคใต้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสตูล นำสู่การเป็นต้นแบบการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคใต้ และส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) รวมทั้งการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism) โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการผลักดันและส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นให้มีศักยภาพพร้อมขาย ตลอดจนสร้างกระแสให้เกิดการรับรู้ในการอนุรักษ์ไปพร้อมกับ การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเพิ่มขีดความสามารถและมาตรฐานในการจัดการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำให้กับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องอย่างรูปธรรรม
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท.ยังกล่าวต่อว่า ด้วยเทรนด์การท่องเที่ยวในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ วิถีชีวิต ชุมชน ศิลปวัฒนธรรม ไปจนถึงการอนุรักษ์มากขึ้น ซึ่งนำไปสู่รูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและสอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว จึงดำเนินการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ พร้อมสอดแทรกกิจกรรมท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจ ด้วยคอนเซ็ปต์สุดสร้างสรรค์ “Pirate of The South @ Satun”เป็นโปรแกรมท่องเที่ยวนำร่อง จำนวน 3 วัน 2 คืน โดยนำนักท่องเที่ยวจากเครือข่ายพันธมิตร ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในและนอกพื้นที่ สื่อมวลชน รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปที่สนใจด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและได้รับการคัดเลือกจากการร่วมกิจกรรมในช่องทางออนไลน์ รวมจำนวน 80 คน ร่วมเดินทางมาทดสอบโปรแกรมท่องเที่ยวนำร่องสัมผัสความงดงามและความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติแห่งทะเลใต้ จังหวัดสตูล ซึ่งตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทยด้านฝั่งอันดามัน ยกตัวอย่างเช่น เกาะตะรุเตา เกาะไข่ เกาะเหล็ก เกาะหินงาม เกาะหินซ้อน เกาะราวี อ่าวแม่หม้าย เกาะอาดัง จุดดำน้ำร่องน้ำจาบัง เกาะหลีเป๊ะ ฯลฯ
โดยผู้ร่วมกิจกรรม “Pirate of The South @ Satun” จะได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์
บนเกาะตะรุเตา เที่ยวเพื่อสังคมสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวเกาะอูรักลาโว้ยอย่างใกล้ชิดและชมภาพ Street Art เดินเที่ยวถนนคนเดิน ชมพระอาทิตย์ตกที่หาดซันเซ็ทบนเกาะหลีเป๊ะอย่างอิ่มเอมใจ และสนุกสนานไปกับการทำกิจกรรม Workshop รักษ์โลกต่าง ๆ มากมาย ออกแบบมาเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ อาทิ ร่วมเป็นนักล่าแห่งท้องทะเลใต้กับกิจกรรมเก็บขยะบนเกาะ นอกจากจะสร้างความสะอาดและเพิ่มความสวยงามให้กับชายหาดและท้องทะเลแล้ว ยังช่วยสร้างจิตสำนึกที่ดีในการร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงกิจกรรมไฮไลต์ กิจกรรมลดพลังงานฯคืนพระจันทร์เดือนมืด “Dark Sky Party”และกิจกรรมตื่นมาวิ่งล่าแสงเช้า “Wake Up Run” กับชุดนอนแสนรัก สัมผัสบรรยากาศริมหาดรับแสงแรกของวันใหม่ บนเกาะหลีเป๊ะ เป็นต้น
นอกจากนี้ ทาง ททท. ยังได้ทำกิจกรรม CSR ส่งมอบตู้ล็อคเกอร์สำหรับอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบนเกาะตะรุเตาได้ใช้ประโยชน์ต่อไป เป็นการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวพกสิ่งของสัมภาระเข้าเกาะน้อยชิ้นที่สุด กับแนวคิด “เที่ยวเกาะขอสองชิ้น - Two Please” เพื่อลดการเกิดคาร์บอนฟุตปริ้นท์ จองคิวล่วงหน้าเข้าอุทยานแห่งชาติล่วงหน้าก่อน 60 วันผ่าน App QueQ ออกแบบท่าและเทคนิคการถ่ายภาพโพสแต่ละแหล่งท่องเที่ยวก่อให้เกิดจุดขายใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว พร้อมมอบรางวัลการสะสมแต้มผ่าน Online ฯลฯ
เที่ยวใต้สายยั่งยืน STGs (Sustainable Tourism Goals) รูปแบบท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ (นำร่องในพื้นที่14จังหวัดภาคใต้) มีดังนี้
1.สตูล : เกาะตะรุเตา”นักล่าขุมทรัพย์Low Carbon” อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
2.กระบี่ : ทุ่งหยีเพ็ง”กระบี่Low Carbon” อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
3.ชุมพร : เกาะพิทักษ์”ภูมิปัญญาท้องถิ่น&วิถีชุมชน” อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
4. ระนอง : ม่วงกลวง”ล่องแพเปียก” อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง
5. ภูเก็ต : บ้านบางโรง”เสน่ห์วิถี คน บางโรง” อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
6.พังงา : บ้านโคกไคร”สปาสามร้อน” อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา
7.ตรัง : บ้านน้ำราบ”เขาจมป่า” อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
8.นราธิวาส : ภูเขาทอง”มหาวิทยาลัยเหมืองแร่” อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส
9.ปัตตานี : สะพานไม้บานา”เที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติ” อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
10.ยะลา : ฆูนุงซีลีปัต”ดูทะเลหมอกยามเช้า ชมทะเลดาวยามค่ำ” อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
11.พัทลุง : แรมซาพาราไดซ์”พื้นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งแรกของประเทศไทย มีความสำคัญต่อการอนุรักษ์” อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
12.นครศรีธรรมราช : พรหมโลก”หลีกหนีวิถีความวุ่นวาย” อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช
13.สงขลา : บ้านหัวเขา”ทะเลสาบสงขลา” อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
14.สุราษฎร์ธานี :บ้านน้ำราด “โอเอซิสกลางป่า” อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
และเกาะสมุย~พะงัน~เต่า”แดนฝันหมู่เกาะทะเลใต้ ฝั่งอ่าวไทย” จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook Fanpage : เที่ยวใต้ by ททท.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น