“พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ระหว่าง หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาและโครงการคืนคุณแผ่นดิน” วันพุธที่ 4 มีนาคม 2563
“พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน
ระหว่าง หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาและโครงการคืนคุณแผ่นดิน”
วันพุธที่ 4 มีนาคม 2563
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาและโครงการคืนคุณแผ่นดิน
“ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน”
( 4/3/63) ที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พล.อ.พีรพงษ์ เมืองบุญชู ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย และ คุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน
ร่วม“ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน โดยมีพลโท สุชาติ สุทธิพล รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ฝ่ายบริหาร พลโท สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ฝ่ายพัฒนา พลโท กิตติพงศ์ กาญจนาคม เสนาธิการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พลโท สำราญ ไชยริปู รองหัวหน้าสำนักงานผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พลตรี ธนินททร์ พู่ทองคำ รองเสนาธิการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ฝ่ายบริหาร พลตรี นนธวัฒน์ ภักดิพงศ์พิชญะ รองเสนาธิการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ฝ่ายพัฒนา พลตรี ชีวธันย์ ปิยะศาสตร์ธนา คณะกรรมการโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน นทพ. คุณรัชตพล กัตัญญูกานต์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาธุรกิจ SME สมาคมการค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน คุณวินัย พรรณสุชล คณะกรรมการสมาคมฯ คุณสมภพ พจน์พริ้ง คณะกรรมการสมาคมฯ คุณศรัณย์ วิทยาบัณฑิต คณะกรรมการสมาคมฯ คุณอติชาติ เลาหพิบูลย์กุล คณะกรรมการสมาคมฯ คุณส่งศักดิ์ ฉัตรชูสกุล ที่ปรึกษาโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน คุณอัครพงศ์ กุลเดชนิธิพัฒน์ ที่ปรึกษาโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืนและประชาชน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา
ตามที่ทางหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย มีวัตถุประสงค์พัฒนา คน ชุมชน พื้นที่ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน มีความสมบูรณ์แบบองค์รวมและเกื้อกูลต่อการป้องกันประเทศ ซึ่งโครงการคืนคุณแผ่นดินมีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือพัฒนาชุมชนให้อยู่ดี กินดี ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง มีความสามัคคี โดยทั้งสองหน่วยงานขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์เดียวกันที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง และเพื่อให้การดำเนินการความร่วมมือเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และ โครงการคืนคุณแผ่นดิน จึงได้ทำพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืนระหว่าง หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาและโครงการคืนคุณแผ่นดิน
คุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน กล่าวว่า โครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน จะประสบความสำเร็จได้แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ทุกคนต้องอยู่อย่างยั่งยืนได้ โดยมีการสำรวจ 5 มิติ
1. อาคารบ้านเรือน ลักษณะของพื้นที่ พื้นที่เป็นแบบไหน พื้นที่มีภูเขา มีลำน้ำ มีห้วย มีคลอง สำรวจทุกตารางเมตร ใช้ทั้งแผนที่ดาวเทียม ใช้โดรน ใช้คนเดิน และมาประมวลผลกัน จะรู้ว่าพื้นที่ไหน ชุมชนไหนคนอยู่มากคนอยู่น้อย พื้นที่ขยะของเสียอยู่ตรงไหน แม้แต่ต้นไม้กี่ต้นเราก็รู้
2. ประชากรและสิ่งมีชีวิต ประชากรทุกคนเราต้องรู้ว่ามี ผู้ชายกี่คน ผู้หญิงกี่คน เด็กกี่คนผู้ป่วยกี่คน ผู้สูงวัยกี่คน และคนที่มีปัญหากี่คน สิ่งมีชีวิตจะได้รู้ว่าจำนวนทั้งหมดมีเท่าไหร่ ในปริมาณที่อยู่ในหมู่บ้านนั้นๆ เพื่อจะได้ส่งเสริม
3. อาชีพ พฤติกรรม วัฒนธรรม คนส่วนใหญ่มีอาชีพอะไร ทำนา เกษตรกร ข้าราชการ หรืออาชีพอื่นๆ และเขามีพฤติกรรมยังไง บางคนเขาอาจจะมีพฤติกรรม ขยันขันแข็ง เขาอาจจะมีพฤติกรรมที่ดี บางที่อาจจะมีพฤติกรรมที่ไม่ดีเท่าไหร่ เราก็ต้องดูว่าพฤติกรรมเขาเป็นยังไง ว่าคนในหมู่บ้านนั้นเป็นคนนิสัยยังไง และก็วัฒนธรรมของเขาเป็นแบบไหน เขาอาจจะมีวัฒนธรรมที่ดีงาม
4. จำนวน สิ่งปลูกสร้าง และอาคาร สำรวจว่ามีบ้านกี่หลัง โรงเรือน ยุ้งฉาง อาคารสำรวจทั้งหมด
5. รายได้ เขาเท่าไหร่ เขามีผลผลิตอะไรบ้าง ในพื้นที่นั้นๆ
สำหรับ “โครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน” การพัฒนา 5 มิติ ประกอบด้วย
1. เศรษฐกิจ รายได้เพิ่มขึ้น ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น บริหารทรัพยากรภายในให้สมบูรณ์ และให้เกิดมูลค่าเป็นเศรษฐกิจให้ได้ การพัฒนาแบบองค์รวม
2. สุขภาพ มีแอพพลิเคชั่น "มีหมอเป็นเพื่อน มีเพื่อนเป็นหมอ" ซึ่งเชื่อว่าประชาชน 70% ในประเทศไทย ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลก็สามารถหายได้
3. สังคม เรียนรู้ประเพณีอาชีพ วัฒนธรรมของชุมชน ทำให้ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ใกล้ชิดกันเกิดเป็นการ พัฒนาในหมู่บ้านอย่างยั่งยืน
4. สร้างสรรค์ ให้ชาวบ้านทุกคนทำของเล็กๆน้อยๆหรือผลิตเป็นสิ่งประดิษฐ์คิดค้นจากชาวบ้านโดยตรง ซึ่งเราอาจใช้ เทคโนโลยีในมือถือ ท่านอาจจะดูมือถือว่าสิ่งนี้ทำอย่างไรบ้าง นี่เป็นสิ่งต่างๆที่สามารถคิด และทำได้เอง
5. การศึกษา การศึกษามี 2 แบบ
5.1 การศึกษาปกติทั่วไป มีตั้งแต่ปฐมวัย จนถึงปริญญา
5.2 การศึกษาของภาคประชาชน ยกตัวอย่างอยากศึกษาเรื่องปุ๋ยหมัก ศึกษาเรื่องนวัตกรรม การ
เก็บเกี่ยว ศึกษาเกี่ยวกับการแปรรูปขยะให้มีมูลค่า
ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันทางโครงการใช้เทคโนโลยีมาเป็นการประมวลผล ชาวบ้าน ประชาชน สามารถติดต่อซื้อขายกันได้ ยกตัวอย่าง เรื่องสหกิจชุมชน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ต้องนำสินค้าราคาถูกจากโรงงานมาจำหน่าย ชาวบ้านสามารถเข้าถึงสินค้าจำเป็นราคาโรงงาน ลดรายจ่าย แล้วเพิ่มรายได้
1. เพิ่มรายได้เศรษฐกิจ
2. สุขภาพ ต้องการให้คนเข้าถึงหมอ เข้าถึงการรักษา โดยใช้เงินน้อยที่สุด แล้วหมอได้ดูแลอย่างใกล้ชิดมากที่สุด นี่คือสิ่งที่เราจะทำเป็นการเบื้องต้น
"วันนี้เราอยู่ผืนแผ่นดินนี้ เราเป็นคนไทย ต่อให้ใครไม่เห็นสิ่งที่เราทำ ว่ามันเป็นคุณงามความดีเป็นสิ่งที่ดีงาม แต่จงจำว่าฟ้าเบื้องบนเห็น สิ่งศักดิ์สิทธ์เห็น สิ่งที่อยู่เหนือตัวเราที่เรามองไม่เห็นท่านอาจจะเห็นได้ ดังนั้นแล้วหากเราเป็นบุคคลที่ดี เป็นคนที่คิดดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เราต้องทำในสิ่งที่ดี ผมไม่ขออะไรพวกท่าน ขออย่างเดียวขอให้ความร่วมมือกับสิ่งที่เราทำ ทุกอย่างจะประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ คุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน กล่าวถึงสหกิจชุมชน ทุกคนเป็นเจ้าของว่า จุดเด่นของสหกิจชุมชนคือเรื่องเศรษฐกิจ ต้องมองภาพรวมในเรื่องของเศรษฐกิจ จะเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายได้อย่างไร หรือบางคนที่ไม่ได้มีรายได้เพิ่ม จะช่วยเขาลดรายจ่ายได้อย่างไร ตรงนี้สำคัญ
ลดรายจ่ายเกี่ยวกับการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารหรือสิ่งต่างๆที่ใช้ในชีวิตประจำวัน จะทำอย่างไรให้ประชาชนซื้อสินค้าในราคาโรงงานได้โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง หรือสามารถส่งสินค้าโดยตรงให้ได้เลย
เพิ่มรายได้ คือคนในชุมชนสามารถขนส่งได้ เช่น หากมีใครต้องการซื้อสินค้าสามารถสั่งกับทางเราได้ และคนในชุมชนสามารถขนส่งเพื่อหารายได้เพิ่มได้ เชื่อมโยงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย และเราให้บริการในเบื้องต้น ตั้งแต่ ฝึก อบรม แนะนำ วิเคราะห์ ขยายผล ให้เกิดผลมากที่สุด สิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่งคือสามารถลดรายจ่ายให้กับทางครัวเรือนได้ เพราะสินค้าจะราคาถูกกว่าปกติมากเพราะเป็นราคาโรงงาน สามารถนำสินค้าชุมชนมาขายเพื่อเพิ่มรายได้ ตัวอย่างเช่น จอหอมีสินค้าชุมชนคือเห็ดที่นำมาเป็นขนมขบเคี้ยวก็นำมาขายเพื่อเพิ่มรายได้ รวมถึงชุมชนอื่นๆก็นำมาขายได้ โดยใช้สหกิจชุมชนเป็นตัวขยาย
สหกิจชุมชุนมี 3 แบบ
1. สหกิจชุมชนแบบเจ้าของ คล้ายๆร้านสะดวกซื้อ จะมีสินค้าการเกษตร พืชผักผลไม้ หรือสินค้าที่ชาวบ้านผลิต และสินค้าจำเป็นทั้งหมด แต่ว่าให้ใครเป็นเจ้าของ คนใดคนหนึ่ง
2. สหกิจชุมชนแบบสนับสนุน คือมีร้านอยู่แล้ว แต่ไม่มีสินค้าจากโรงงาน เพราะเข้าถึงไม่ได้ เราเข้าไปสนับสนุน
3. สหกิจชุมชนแบบช่วยเหลือ คือไม่มีอะไรเลย แต่ขายเป็น มีความตั้งใจที่จะขาย และทำได้ดี เราต้องไปก่อสร้างร้าน ซื้อของมาให้ ช่วย 100เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ โครงการคืนคุณแผ่นดินปฏิบัติงานมาเข้าปีที่ 10 ตามพระราชดำริของบุคคลสำคัญของประเทศ ต้องการพัฒนาแบบยั่งยืนและถาวรพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีและยกระดับของภาคประชาชนอย่างครบถ้วนครบวงจรในแบบองค์รวม จึงร่วมกับหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) จัดตั้งโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน โดยมีการศึกษาอย่างถ่องแท้เพื่อให้ประชาชนยอมรับอย่างพร้อมใจ พร้อมกับการเข้าไปดำเนินการจริงอย่างจริงใจเพื่อพัฒนาทุกกลุ่มอาชีพให้เกิดประโยชน์และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นใน 5 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และการศึกษา โดยมีโครงการนำร่องหมู่บ้านต้นแบบ ทั่วประเทศอยู่แล้ว จำนวน 10 หมู่บ้าน ได้แก่
1. หมู่ที่ 5 หมู่บ้านเกาะไหล อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา
2. หมู่ที่ 8 บ้านปากมาบ ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
3. หมู่ที่ 9 บ้านหนองปล้อง ตำบลสุขเดือนห้า อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท
4. หมู่ที่ 3 บ้านดงป่าสัก ตำบลบ้านด้าย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
5. หมู่ที่ 5 บ้านวัดขวาง ตำบลบ้านไร่ อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก
6. หมู่ที่ 5 บ้านวังน้ำมอก ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
7. หมู่ที่ 3 บ้านคำบอน ตำบลบ้านตูม อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี
8. หมู่ที่ 3 บ้านจอหอ ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
9. หมู่ที่ 6 บ้านหนองทราย ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี
10. หมู่ที่ 7 บ้านหนองแดงใหม่ ตำบลหนองแดง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน
โดยในปี 2563 จะขยายพื้นที่การพัฒนาหมู่บ้านเพื่อความยั่งยืน 30 หมู่บ้านต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : นพวรรณ ดุจศรีวัชร์ 062-2451457
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น